วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Bebzac&Differin: ยาดันสิวให้เห่อสุดๆ แต่ได้ตัดขาดจากสิวเรื้อรัง

           สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ วันนี้ผมจะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องสิวๆ ที่หายารักษาได้แบบชิวๆ 



           ชีวิตย่างเข้าสู่วัยรุ่นหลายคนคงประสบกับปัญหาสิวกับใช่ไหมครับ ร่วมถึงตัวผมเองด้วย ที่เริ่มมีปัญหาสิวบนใบหน้ามาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น และมันก็เป็นปัญหาเรื้อรังมาเรื่อยๆ เข้ารับการรักษาตามคลินิกเสริมความงามต่างๆ ก็หายบ้างไม่หายบ้าง ประกอบกับคลินิกค่อนจะเลี้ยงไข้ ที่สำคัญค่าใช้จ่ายสูงมากกกกกกกก



           ด้วยความที่อยากหายขาดจากปัญหาดังกล่าว ผมจึงพยายามศึกษาหาข้อมูลในแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะในอินเทอร์เน็ต ได้มีโอกาสอ่านรีวิวการักษาสิวแบบต่างๆ แต่จากการสืบค้นวิธีการรักษาสิว จะพบผลิตภัณฑ์สองตัวที่เป็นที่นิยมและมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ นั้นก็คือ  

                                    [Benzac AC & Differin]



(หน้าตาคล้ายกันมากนะครับ เพราะสองตัวนี้เป็นพี่น้องกับครับ)


           พอเห็นหน้าตายาที่จะช่วยรักษาสิว เรามาดูส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ดีกว่าครับ 

Benzac AC คืออะไร ?

            Benzac AC เป็นยา Benzoyl Peroxide (BP) ยี่ห้อหนึ่งขอรับ โดยตัวยานี้ทำหน้าที่ในการฆ่าเชื้อโรค P Acne ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวอักเสบอย่างได้ผล นอกจากนี้ BP ยังมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวด้วย จึงช่วยให้การลดคอมีโดน หรือสิวอุดตันได้ด้วยเช่นกัน ตัวยา Benzoyl Peroxideมีข้อได้เปรียบกว่ายาฆ่าเชื้อ (antibiotics) ชนิดอื่น ๆ อย่าง Clindamycin ตรงที่ไม่ทำให้เชื้อดื้อยา

Benzac AC แตกต่างจาก ยา Benzoyl Peroxide ยี่ห้ออื่น ๆ ตรงไหน?

            สิ่งที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ Benzoyl Peroxide ยี่ห้ออื่นๆคือ Benzac AC จะอยู่ใน Water Bsae Gel ซึ่งอ่อนโยนกว่า ผลิตภัณณ์ BP ส่วนใหญ่ (เช่น Panoxyl) จะเป็นตัวยาที่อยู่ใน Alchol base gel ซึ่งทำให้ระคายเคืองได้มากกว่า (Ref: Pupesosweet)
  

           Benzac AC มีความเข้มข้น 2.5 % , 5% และ 10% มีผลการวิจัยว่าความเข้มข้น 2.5 ก็ให้ประสิทธิภาพได้แทบไม่แตกต่างจากความเช้มข้นที่สูงกว่า และยังระคายเคืองน้อยกว่าด้วย ดังนั้นแนะนำให้ใช้ 2.5 ก็พอแล้วขอรับ หากใช้ไม่ได้ผลจริง ๆ จึงค่อยปรับความเข้มขึ้นเพิ่มขึ้น



 
 ตัวอย่างจากผู้ทดลองใช้

           วิธีที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ คือใช้วันละ 1 ครั้ง ก่อนล้างหน้าในตอนเย็น ทาบาง ๆ ทั่วใบหน้าหรือบริเวณที่เป็นสิว เว้นรอบดวงตา ริมฝีปาก และขอบจมูกที่ระคายเคืองได้ง่าย ทิ้งไว้ 10 - 15 นาที แล้วล้างออกด้วยคลีนเซอร์ชนิดอ่อนโยนที่ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง ซับหน้าเบา ๆ ให้แห้งก่อนบำรุงผิวขั้นต่อไป

         สำหรับผู้ที่ผิวชินกับตัวยาแล้ว สามารถแต้ม Benzac AC บาง ๆ เฉพาะบริเวณหัวสิว ทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้ครับ

สามารถใช้ควบคู่กับ Retin-A หรือยากลุ่มกรดวิตามิน A อื่นๆ ได้ไหม?

         ตัวยา Benzoyl Peroxide ไม่สามารถใช้ควบคู่กับยากลุ่มกรดวิตามินเอได้ แต่มีตัวยาตัวหนึ่งที่ยกเว้นคือ adapalene (Differin) ซึ่งเป็นสารที่พัฒนามากจากกรดวิตามินเอตัวอื่น สามารถใช้ควบคู่ไปกับ Benzoyl Peroxide ได้ครับ



Differin คืออะไร?

            Differin มีชื่อตัวยาว่า adapalene เป็นยากลุ่มกรดวิตามินเอที่แตกต่างจากกรดวิตามินเอตัวอื่นตรงที่ อาการแห้ง แดง ลอก หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ จะน้อยกว่ากรดวิตามินเอทั่วไป แล้วก็มีประสิทธิภาพในการต้านการอักเสบของผิวได้ดีกว่า และยังสามารถใช้ควบคู่กับ Benzoyl Peroxide ได้ด้วย

Differin มีประโยชน์กับผิวเป็นสิวยังไง?

            ยากลุ่มกรดวิตามินเอสามารถรักษาเรื่องสิวอุดตันได้ดี เพราะผิวที่เป็นสิวอุดตันได้ง่ายมักมาจากสภาพรูขุมขนที่มีรูปทรงผิดปกติไปเนื่องจากชั้นผิวหนาตัวขึ้น 
            ยาตัวนี้จะไปทำให้ความหนาของผิวและรูปทรงของรูขุมขนกลับมาเป็นปกติ และเนื่องจาก adapalene มีผลข้างเคียงน้อยกว่ากรดวิตามินตัวอื่น และอยู่ในรูปแบบเจลที่ทาได้ง่ายกว่าแบบครีม จึงสามารถควบคุมปริมาณการใช้ในแต่ละครั้งได้เป็นอย่างดี ทำให้ลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาเกินขนาดได้ไปในตัว

 

          ใช้เวลาก่อนนอน หลังจากล้างหน้าแล้ว ซับหน้าให้แห้งสนิท บีบยาออกมาปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียวหรือมากกว่าเล็กน้อย เกลี่ยบางๆ ให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบดวงตา ริมฝีปาก และขอบจมูก ทิ้งให้ซึมเข้าผิวดี หากจะใช้ครีมบำรุงผิวแนะนำให้ทา หรือ ตบเขา ๆ ให้ครีมบำรุงซึมเข้าสู่ผิวเอง

          *ถึงแม้ตัวยา adapalene จะมีผลข้างเคียงต่อการไวต่อแสง แห้ง แดง ลอก น้อยกว่ายากลุ่มกรดวิตามินเออื่น ๆ ก็จำเป็นต้องเลี่ยงแสงแดดจัด ๆ และต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน

ใช้ Differin แล้วหน้าลอก แดง จะทำอย่างไรดี?

           แนะนำให้ลดปริมาณหรือความถี่ในการใช้ลง จากทุก ๆ วัน เป็นวันเว้นวัน เพื่อให้ผิวสามารถปรับตัวรับกับตัวยาได้ก่อน ค่อยกลับไปใช้ทุกวัน ๆ แต่หากลดความถี่หรือหยุดใช้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น เป็นไปได้ว่าจะมีการแพ้ตัวยา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังครับ

ใช้ Differin นานเท่าไหร่จึงจะเห็นผล?

           ภายใน 2 - 3 สัปดาห์แรกจะเริ่มสังเกตุความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ แต่ต้องใช้เวลา 2 - 3 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผลชัดเจน


         หลังจากได้ผลเป็นที่พอใจแล้วก็ไม่จำเป็นต้องทาทุกวันก็ได้ครับ ให้ลดปริมาณการใช้เป็นวันเว้นหรือวันเว้นสองวันก็ได้ เพื่อคงสภาพผิวเอาไว้ หากหยุดใช้ไปนาน ๆ ผิวก็กลับมาเป็นสภาพเดิม


 

          แนะนำให้หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีสารก่อให้เกิดอาการระคายเคืองขอรับ เพื่อให้ผิวไม่ถูกรบกวนและสามารถฟื้นตัวได้ดี หลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน สำหรับคนที่ทนกับตัวยาได้เป็นอย่างดี สามารถแต้ม Benzac AC บาง ๆ บนหัวสิวหลังจากทา Differin แล้วก็ได้ครับ จะทำให้สิวแห้งเร็วขึ้นด้วย

 


          อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นในการใช้และสภาพผิวของคนเรานั้นไม่เหมือนกัน คงไม่มีใครรู้ถึงสภาพผิวของเราได้ดีกว่าตัวของเราเอง จึงต้องมีการปรับปริมาณ ความถี่ และรูปแบบในการใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองด้วยนะครับ




ขอบคุณข้อมูลทางการแพทย์บางส่วนจากคุณ Pupesosweet


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น